สมัยนี้สาวๆหันมาให้ความสำคัญกับการยกกระชับให้ดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ หนึ่งในตัวช่วยยอดฮิตคงหนีไม่พ้นกับ "ร้อยไหม" และอีกนวัตกรรมที่มาแรงไม่แพ้กันก็คือ Endotine หรือ เอนโดไทน์ ที่จะให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ชัดเจนและอยู่ได้นานมากกว่า แล้วสองวิธีนี้ต่างกันยังไงเหมาะกับใครบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจไปพร้อมๆกันค่ะ
Endotine คืออะไร?
ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับ Endotine หรือ เอนโดไทน์ กันก่อนค่ะ Endotine คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับการยกกระชับผิวหน้าและลดความหย่อนคล้อย โดยมีลักษณะเป็นแผ่นเล็กๆ ที่ทำจากวัสดุที่สามารถสลายได้เองในร่างกาย (biodegradable) จุดเด่นของเอนโดไทน์คือช่วยยกและตรึงเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้กระชับขึ้น และมีความแข็งแรงกว่าการร้อยไหม ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 3-5 ปีเลยทีเดียว
ร้อยไหม คืออะไร?
ร้อยไหมคือ การใช้ไหมละลายชนิดพิเศษในการยกกระชับผิว โดยแพทย์จะทำการร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อยกผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้น ซึ่งไหมเหล่านี้จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการดูแลหลังทำค่ะ
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Endotine กับ ร้อยไหม
วิธีการทำ
- Endotine คือ ศัลยกรรมขนาดเล็กที่ต้องใช้การเปิดแผลเล็กๆ เพื่อฝังแผ่นเอนโดไทน์เข้าไปใต้ผิวหนัง ช่วยยกกระชับจากชั้นลึก
- ร้อยไหมคือ การใช้ไหมละลายที่ร้อยเข้าใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัด
วัสดุที่ใช้
- Endotine คือ แผ่นพลาสติกชีวภาพที่สามารถสลายได้เองในร่างกาย
- ร้อยไหมใช้ไหมละลายที่ทำจากวัสดุอย่าง PDO หรือ PCL ซึ่งปลอดภัยและสลายไปตามธรรมชาติ
ผลลัพธ์ที่ได้
- Endotine ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน 3-5 ปี
- ร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้
ระยะเวลาเห็นผล
- Endotine คือ วิธีที่ให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่เห็นผลทันทีหลังทำ และจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 1-3 เดือน
- ร้อยไหมจะเห็นผลทันทีหลังทำเช่นกัน แต่ความตึงกระชับอาจไม่ลึกเท่าเอนโดไทน์
การพักฟื้น
- Endotine ต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก
- ร้อยไหมแทบไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ข้อดีของ Endotine (เอนโดไทน์)
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า เพราะ Endotine คือ อุปกรณ์ที่ช่วยยึดเนื้อเยื่อใต้ผิวได้แน่นหนา ทำให้ผิวที่ยกกระชับอยู่ได้นานถึง 3-5 ปี
- ยกได้ลึกกว่า เอนโดไทน์สามารถยกกระชับได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกกว่าและยกยาก
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับมาก โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คิ้ว และหน้าผาก
ข้อดีของการร้อยไหม
- ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ เพราะร้อยไหมเป็นเพียงการร้อยไหมผ่านเข็มเล็กๆ
- เห็นผลเร็ว หลังทำจะเห็นการยกกระชับทันที ไม่ต้องรอเวลาเหมือนเอนโดไทน์
- พักฟื้นน้อย ไม่ต้องหยุดงานหรือพักฟื้นเป็นเวลานาน
Endotine เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานและชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการยกคิ้ว ยกหน้าผาก หรือกระชับใบหน้าแบบถาวร
ร้อยไหมเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วและพักฟื้นน้อย
Endotine หรือ ร้อยไหม เลือกแบบไหนดี?
หากคุณมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับมาก และต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานหลายปี Endotine คือ ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะสามารถยกกระชับได้ลึกกว่าและอยู่ได้นานกว่า ในขณะที่ ร้อยไหม เหมาะสำหรับคนที่มีความหย่อนคล้อยไม่มากนัก ต้องการเห็นผลเร็ว และไม่อยากพักฟื้นนาน
ไม่ว่าสาวๆจะเลือกวิธีไหน ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน สุดท้ายแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐานนะคะ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สวยปังที่สุดค่ะ แต่หากสาวๆสนใจและอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการทำ Endotine เพิ่มเติมได้ที่ https://www.issaveeclinic.com/